เถียงกันไม่จบผลกระทบสารพาราควอต
นายอุทัย นพคุณวงศ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแมลง 2 ชนิด คือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ส่วนไกลโฟเซต สั่งให้มีควบคุมการใช้ ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.2562 นั้น ได้มีการแต่งตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาควบคุมวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ขึ้นเพื่อหาข้อเท็จจริงด้านผลกระทบจากสารเคมี ซึ่งปัจจุบันกำลังสรุปข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแบนสารเคมีดังกล่าวภายในเดือน เม.ย.2561 เพื่อยื่นเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงในเดือน พ.ค.2561 พิจารณาว่าจะมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีพาราควอตและไกลโฟเซตหรือไม่
“ข้อมูลผู้ที่ต้องการใช้พาราควอต อ้างว่าเดิมราคาพาราควอตอยู่ที่ 380 บาทต่อแกลลอน พอมีข่าวจะแบนสารเคมีก็มีการกักตุนราคาเพิ่มกว่า 60% ซึ่งกระทบต่อต้นทุนเกษตรกรรายย่อย จำนวนมาก โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด คือ ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวโพดหวาน”
สำหรับข้อมูลฝ่ายที่ต้องการแบนระบุว่า พาราควอตมีผลต่อโรคพาร์กินสันในทารกที่อยู่ในครรภ์ และมีผลต่อโรคเนื้อเน่านั้นยังไม่มีผลวิจัยระบุถึงอันตรายชัดเจน ขณะที่สารเคมีที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าพาราควอตซึ่งจะนำมาใช้ทดแทนปัจจุบันยังไม่มี อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการแบนพาราควอต กรมวิชาการเกษตรเตรียมเสนอมาตรการควบคุมไว้แล้ว อาทิ กำหนดให้จำหน่ายในร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เป็นต้น.
ที่มา : https://www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น